ในการทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ หรือ 2 พลัสนั้นถึงแม้ว่าจะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่าชั้น 1 อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีเทคนิควิธีที่จะทำให้คุณสามารถลดค่าเบี้ยประกันไปได้อีกเป็นวิธีการประหยัดที่ได้ผลดีทีเดียวครับ
ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัสคืออะไร
ก่อนอื่นต้องมาดูกันก่อนว่า ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ นี้คืออะไร โดยในปัจจุบันประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีราคาเบี้ยประกันที่ค่อนข้างมีถูกกว่าประกันชั้น 1 ทำให้หลายๆคนที่กำลังกังวลกับการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพราะราคาเบี้ยประกันที่ค่อนข้างแพงนั้น มีประกันชั้น 2+ เข้ามาเป็นตัวเลือกช่วยในการตัดสินใจในส่วนนี้
โดยประกันชั้น 2+ นั้นมีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองบุคคลภายนอก ความคุ้มครองด้านภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือในกรณีไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย ก็มีการคุ้มครองเช่นเดียวกันกับประกันชั้น 1 หรือความคุ้มครองในด้านอื่นๆดังนี้
- ซ่อมเขาซ่อมเรา ในกรณีรถชนรถ
- คุ้มครองเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 เช่น อุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล ประกันตัวผู้ขับขี่
ประกันชั้น 2+ เหมาะกับใครบ้าง? เนื่องจากเป็นประกันรถยนต์ที่มีราคาถูกและให้ความคุ้มครองทั้งสองฝ่ายเฉพาะในกรณีที่รถชนรถเท่านั้น การเลือกทำประกันชั้น 2+ จึงเหมาะกับรถที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และผู้ขับขี่มีพฤติกรรมที่ไม่ประมาทและมีความเชี่ยวชาญในการขับรถอยู่แล้วบ้าง จึงจะคุ้มค่าและสามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันไปได้กว่าครึ่งอีกด้วย
เทคนิคลดเบี้ยประกันให้ถูกลงทำอย่างไร
เทคนิคในการลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ให้ถูกลง ทำได้โดยการที่ดูทำเงื่อนไขในเรื่องของค่าเสียหายส่วนแรกให้ดี โดยค่าเสียหายส่วนแรกนี้ คือ การที่เราจะต้องสำรองจ่ายเมื่อมีการแจ้งเคลมหรืออุบัติเหตุในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด จึงเหมาะกับผู้ที่มมีความเชี่ยวชาญในการขับขี่รถยนต์อย่างไม่ประมาท หากคุณไม่ค่อยมั่นใจในการขับขี่รถยนต์ของตนเอง แนะนำให้เลือกแบบไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกจะดีกว่า แพงกว่านิดหน่อยแต่สบายใจกว่าเยอะเลยครับ และควรติดกล้องรถยนต์ หากรถของคุณติดกล้องติดรถยนต์จะได้รับการลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ลงไปอีกทันที และยังช่วยเป็นหลักฐานเพื่อคุ้มครองรถของเราเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นอีกด้วย
ในการที่จะประหยัดค่าเบี้ย ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ นั้นก็ต้องอาศัยนิสัยการขับรถที่ดี และพื้นฐานประสบการณ์ด้วย ไม่ควรที่จะประมาท หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดเหตุต่างๆเอาไว้หรือติดกล้องรถยนต์ก็ดูจะเป็นวิธีที่ดีทีเดียวครับ
