เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ออกโครงการจับคู่เงินกู้สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เน้นการส่งออก ซึ่งกำลังเผชิญกับสภาพคล่องที่ตึงตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวซึ่งกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) และบรรษัทประกันสินเชื่อไทย (TCG) จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็ก ผู้ส่งออกเข้าถึงสินเชื่อที่อ่อนนุ่มและเพิ่มรายได้จากการส่งออก
ปัจจุบันมี SMEs ประมาณสามล้านรายในประเทศและ 30,000 รายเป็น SMEs ขนาดเล็ก
“ผู้ส่งออกที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไม่เพียงแต่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ยังรวมถึงรายย่อยที่มีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานด้วย” นายจุรินทร์กล่าว
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้ส่งออกต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การแปรรูป นวัตกรรม หรือการตลาด อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือการไม่สามารถหาทุนใหม่ท่ามกลางวิกฤตการณ์ [Covid-19] ในปัจจุบัน”
นายจุรินทร์ เสนอเงินกู้มูลค่า 2.5 พันล้านบาท พร้อมเงื่อนไขพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ต่ำกว่าปกติ 6.5% และไม่ต้องค้ำประกัน
การขอสินเชื่อจะใช้เวลาเพียงเจ็ดวันแทนที่จะเป็น 30 วันตามปกติ
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่าสำหรับผู้สมัครที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ธนาคาร Exim Bank จะเสนอค่าประกันฟรีสำหรับการจัดส่งครั้งแรกและให้การฝึกอบรมเกี่ยวกับความรู้ด้านการส่งออก
โครงการจับคู่เงินกู้เป็นโครงการที่สองหลังจากที่กระทรวงร่วมมือกับสถาบันการเงิน 6 แห่งเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อจัดโปรแกรมจับคู่เงินกู้สำหรับร้านอาหารที่ขายอาหารผ่านแพลตฟอร์มการจัดส่งออนไลน์ เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าถึงสินเชื่อที่อ่อนนุ่มได้อย่างง่ายดาย
สถาบันการเงิน 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และบรรษัทประกันสินเชื่อไทย
ร้านอาหารอย่างน้อย 15,000 แห่งได้ยื่นขอสินเชื่อซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา
ขอบคุณเนื้อหาจาก: Bangkokpost.com